Thursday, 23 March 2023

US Boxoffice ยัยหุ่น "M3GAN" เฮี้ยนกระหึ่ม สู้สุดใจแข่งรายได้ "Avatar 2"

จัดว่าโลกได้อ้าแขน ต้อนรับการมาของ M3GAN หุ่นสาวสุดสยองตัวใหม่ ที่กระหึ่มไม่เบา เป็นการประเดิมเริ่มเปิดปีใหม่ ได้อย่างเป็นปรากฏการณ์ ถึงแม้ว่าพลังความแรงของเธอ อาจจะยังแรงไม่พอ ที่จะแซงหน้าแชมป์เก่า หนังบ็อกซ์บัสเตอร์เรื่องมหึมา แต่ว่าก็สามารถแย่งซีน รวมทั้งสร้างกระแส ทำให้เหล่าชาวนาวี แผ่วแรงลงไปบ้างได้เช่นนี้ ถือว่าเป็นบ็อกซ์ออฟฟิศ เริ่มปีได้อย่างน่าดึงดูดไม่เบา

M3GAN อวตาร2

และแน่นอน ว่าสุดสัปดาห์นี้ “Avatar: The Way of Water”

ก็ยังคงครองบัลลังก์ได้อีกต่อไป เข้าสู่สัปดาห์ที่ 4 ต่อเนื่อง กันอย่างงดงาม ผ่านช่วงเทศกาลวันหยุดไปแล้ว แต่รายได้ ก็ยังน่าพอใจอยู่ เก็บไปได้อีก 45 ล้านเหรียญ ลดลงมาเพียงแค่ -33% พร้อมด้วยยังครองรอบ แล้วก็โรงฉายทั่วอเมริกาได้มากที่สุดต่อไป โดยสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ยังมีการเพิ่มโรงฉายขึ้นอีก โดยประมาณหนึ่ง แต่รายได้เฉลี่ย ต่อโรงก็ยังสู้ แตะหลักหมื่นเหรียญแบบ ไม่ยอมตกลงมา

รายได้รวมในอเมริกาในเวลานี้ทะยานไปที่ 516 ล้านเหรียญ ส่วนรายได้รวมทั่วโลก ในช่วงเวลานี้ก็พุ่งไปอยู่ที่ 1.7 พันล้านเหรียญ

ขยับขึ้นมาอยู่อันดับ ที่ 7 ของรายได้หนังทำเงินสูงสุด ตลอดกาลของโลก แล้วก็ดูทรงแล้วว่า ก็ไปสู่รายได้ 2 พันล้านเหรียญ คงจะมิได้ใช่อุปสรรคอีกต่อไปแล้ว คาดว่าน่าจะใช้เวลาอีกราว 10 วันต่อจากนี้ เราน่าจะได้เห็นหนังเรื่องนี้ ก้าวขึ้นสู่หนัง 2 พันล้านเหรียญ ซึ่งจะกลายเป็นเรื่องที่ 6 ในประวัติศาสตร์ ที่ทำได้

ส่วนสัปดาห์นี้ ก็จะต้องเปิดทางให้กับนาง “M3GAN” หนังหุ่นพี่เลี้ยงสะพรึง เป็นหนังใหม่ ที่เปิดตัวเรื่องแรกของปี 2023 กับปรากฏการณ์ที่ไม่ธรรมดา เพราะว่าหนังสามารถ ฟันรายได้ 3 วันแรก ไปได้สูงถึง 30.2 ล้านเหรียญ จาก 3,509 โรงฉายทั่วประเทศ

หรือคิดเป็นรายได้ เฉลี่ยต่อโรง ที่ราว ๆ 8 พันเหรียญเศษ ๆ ที่นับว่าแรงไม่เบาเลย หนังเรื่องนี้ ได้ทีมผู้ผลิตจากโปรดิวเซอร์ “เจมส์ วาน” ที่มีชื่อเสียงว่า เป็นเจ้าพ่อหนังสยอง มาช่วยปลุกความหลอน และยังผนึกกำลังกับ บลัมเฮาส์ อีกด้วย

M3GAN นักแสดง

ข้อได้เปรียบของ M3GAN

ก็บางทีอาจเป็นด้วยเหตุว่าเป็นหนังสยอง ที่ถูกจัดเรทแค่เพียง PG-13 ทำให้สามารถกวาด กลุ่มผู้ชมวัยุรุ่น ที่เป็นกลุ่มที่ผลักดันส่งผลให้เกิดกระแสไวรัล ท่าเต้นอันเป็นตำนานล่าสุด

ในตอนนี้เข้าไปตีตั๋วดูหนังได้เป็นอย่างดี อีกทั้งหนังยังได้กระแสตอบรับค่อนข้างดี จากนักวิจารณ์อีกด้วย เห็นได้จากคะแนน บนเว็บไซต์ Rotten Tomatoes ที่สูงถึง 95% หลายท่านแซวว่า สูงยิ่งกว่าหนังซูเปอร์ฮีโร่ ยุคนี้ด้วยซ้ำ

M3GAN หนังดี

แน่ ๆ ว่าหนังเรื่องนี้ ได้ดีเพราะเหตุว่ากระแสปากต่อปาก

จากผู้ชมโดยแท้ ทำให้หนังสามารถ ทำเงินเปิดตัวได้สูงยิ่งกว่า ที่สตูดิโอและก็นักวิจารณ์คาดเอาไว้ โดย M3GAN ใช้ทุนสร้างไปแค่เพียง 12 ล้านเหรียญแค่นั้น แม้ว่าจะมิได้ใช้นักแสดง ที่เป็นที่รู้จักอะไร แต่ว่าเนื้อหาของหนัง ก็ดึงดูดความสนใจได้ดี และก็ในตอนนี้หนังก็สามารถเปิดตัว กับรายได้รวมทั่วทั้งโลกได้มากกว่า 45 ล้านเหรียญแล้ว

ที่ยังทำผลลัพธ์ ได้อีกเรื่องก็คือ “Puss in Boots: The Last Wish”

ที่เป็นไปตามคาดว่า หนังจะสามารถโกยรายได้ ได้ยาว ๆ เพราะเหตุว่าในตอน 1-2 เดือนนี้ จะยังไม่มีหนังแอนิเมชั่น เรื่องใหม่ออกฉายเลย และคำวิจารณ์ รวมทั้งแรงเชียร์แบบปากต่อปาก ก็ช่วยส่งเสริมหนังเรื่องนี้อย่างดีเยี่ยม

หนังทำเงินไปอีก 13.1 ล้านเหรียญ น้อยลงไปเพียงแค่ -22% และก็มียอดรวม ในบ้านไปแล้วที่ 87 ล้านเหรียญ ส่วนรายได้รวมทั่วทั้งโลก เวลานี้ก็ใกล้แตะ 200 ล้านเหรียญแล้ว

“A Man Called Otto” หนังตลกร้ายรีเมคของ “ทอม แฮงก์ส” ที่ฤกษ์เปิดฉาย เป็นวงกว้างเพิ่มมากขึ้นในอาทิตย์นี้ ก็สามารถทำเงิน ทะยานขึ้นมาติด Top 5 ได้ กับรายได้ 4.2 ล้านเหรียญ จากเพียง 637 โรงฉายทั่วอเมริกา หรือคิดเป็นรายได้เฉลี่ย ที่ราว ๆ 6 พันเหรียญเศษ

ถือได้ว่าเป็นการออกสตาร์ท ที่น่าพึงพอใจ ถึงแม้หนังจะ ยังไม่ได้ฉายวงกว้างเต็มสตริม แต่มีแผนที่จะขาย ไปถึงกว่าพันโรง ในครอบคลุมทั่วประเทศต่อไป เพียงแต่ว่าหนังจะมี กระแสบนเวทีรางวัลมา ช่วยหนุนไหม

นอกจากนี้ที่ปลายตารางยังมี “The Whale” หนังดราม่าลุ้นรางวัล ทางการแสดงของ “แบรนเดน เฟรเซอร์” ที่มีลุ้นจะได้ออสการ์ ยังทำเงินได้ดี ไปอีก 1.5 ล้านเหรียญ โดยมีการเพิ่มโรงฉายเพิ่มขึ้นอีกหน่อย เป็น 835 ที่ทั่วประเทศ

แม้ว่าจะยังไม่ได้ฉายแบบเต็มรูปแบบ ทั่วอเมริกา แต่ในขณะนี้ก็เก็บรายได้ มาตุนเอาไว้ที่ 8 ล้านเหรียญเศษ ๆ หนังยังมีอนาคตอีกไกล ไปจนช่วงฤดูกาลล่ารางวัล จะสิ้นสุดลงในเดือนมีนาคม

สำหรับสัปดาห์ที่จะถึงนั้น ที่นอกจากจะมี A Man Called Otto ขยายโรงฉายเป็นวงกว้างขึ้น หลักพันโรงฉายทั่วอเมริกาแล้ว ยังมีหนังใหม่มาอีก 3 เรื่องนี้ ได้แก่ หนังแอคชั่นเรื่องใหม่ของ “เจอราร์ด บัตเลอร์” ที่จัดแจงแลนดิ้งใน “Plane” ตามมาด้วยหนังตลกรีเมค ที่เฉพาะกลุ่มคนอเมริกันผิวสี “House Party” และก็หนังเขย่าขวัญไซไฟ “The Devil Conspiracy” มีแผนจะฉาย ในวงค่อนข้างกว้าง